Back

จดหมายเปิดผนึก : ทบทวนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หยุดละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างการพัฒนาที่เป็นธรรม

จดหมายเปิดผนึก : ทบทวนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หยุดละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างการพัฒนาที่เป็นธรรม

8 December 2015

1089

  เครือข่ายประชาชนผู้ไร้สิทธิ์ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ๒๒๒ หมู่ ๘ ซอยรามอินทรา ๖๑ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ๑๐๒๓๐ โทรศัพท์ ๐๒-๙๔๕-๗๑๒๖ โทรสาร ๐๒-๙๔๕-๗๑๒๕   จดหมายเปิดผนึก วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘   เรื่อง ทบทวนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หยุดละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างการพัฒนาที่เป็นธรรม เรียน หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อานาจพิเศษตามมาตรา ๔๔ ดาเนินการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมลา ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และแก้ไขปัญหาความมั่นคง โดยแบ่งการดาเนินการออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จานวน 5 จังหวัดได้แก่ ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด และสงขลา ระยะที่ 2 จานวน 5 จังหวัดได้แก่ เชียงราย หนองคาย นครพนม กาญจนบุรี และนราธิวาส เครือข่ายประชาชนผู้ไร้สิทธิ์ เขตเศรษฐกิจพิเศษ นาเสนอข้อเท็จจริงจากพื นที่ ในการสัมมนาสาธารณะ “เสียงจากคนไร้สิทธิ์ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเบ็ดเสร็จ เมื่อประชาชนถูกบังคับให้พัฒนา” เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ มหาวิทยาลัยรังสิต พบข้อเท็จจริงว่า การดาเนินการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีลักษณะที่เป็นปัญหาร่วมคือ ความไม่โปร่งใส ขาดธรรมาภิบาล ดังนี   ๑) นโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อาจไม่มีความเหมาะสมกับบริบทปัญหาสังคมความต้องการพื นฐานและรากฐานทางวัฒนธรรมประเทศไทย ๒) การนานโยบายสู่การปฏิบัติ ไม่ได้คานึงเป้าหมายที่จะยังประโยชน์สุขที่จะเกิดขึ นแก่ชุมชนท้องถิ่นอย่างชัดเจนที่มีความเป็นเหตุผลเพียงพอ ๓) ขาดการมีส่วนร่วมประชาชนตั งแต่ประชาพิจารณ์ที่มีลักษณะเร่งรีบ ประชาชนรับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว คือ เฉพาะด้านที่เป็นคุณต่อการยอมรับนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ แต่ไม่ได้รับรู้ด้านผลกระทบเสียหายแก่วิถีชีวิตชุมชน สิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน ๔) การจัดหาที่ดินเพื่อเร่งจัดตั งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ขาดการวางระบบระเบียบกฏเกณฑ์อย่างรอบคอบที่สอดคล้องกับเป้าประสงค์ของนโยบายการจัดตั งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๕) การมีลักษณะอาศัย มาตรา ๔๔ เป็นเครื่องมือ เอื อประโยชน์แก่กลุ่มอิทธิพล การเมืองท้องถิ่น และกลุ่มทุนบางกลุ่มที่ต้องการได้ประโยชน์จากการเก็งกาไรและค้าที่ดิน ๖) พื นที่ที่คัดเลือกมีทั งพื นที่สาธารณะที่มีคนยากจนและด้อยโอกาสได้พึ่งอาหารจากป่า อันเป็นปัจจัยความมั่นคงอาหาร และบางพื นที่มีความขัดแย้งเรื่องที่ดินถือครองโดยไม่มีการพิสูจน์สิทธิอย่างถูกต้องตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ๗) การมีแนวโน้มที่จะยกเลิกกระบวนการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งขัดกับหลักการพื นฐานการพัฒนาที่จะนาพาประเทศสู่ความ   ๘) การกาหนด ๑๓ กิจการที่จะส่งเสริมการลงทุน ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ไม่สอดคล้องกับสภาพพื นที่ ความต้องการของประชาชนและผู้ประกอบการในพื นที่ ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ทั งเอื อประโยชน์ต่อทุนขนาดใหญ่ และนักลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า ๙) การทบทวนและจัดทาผังเมืองรวมจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเอื ออานวยต่อการส่งเสริมการลงทุนและอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการจัดกลุ่มจังหวัดสาหรับกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั นสูงและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Super Cluster) มีผลกระทบต่อพื นที่สีเขียวซึ่งเป็นรากฐานวิถีชีวิตไทยที่ดีงามและมีความสุข โดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนและไม่สอดรับกับเศรษฐกิจฐานราก เป็นต้น เครือข่ายฯ มีความห่วงใยต่อภาพลักษณ์รัฐบาลและคณะคสช.ที่มีเจตนาอย่างแรงกล้าที่จะปฏิรูปบ้านเมืองสู่ความสงบสุข แต่การใช้ มาตรา ๔๔ ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่เป็นอยู่ต่อกรณีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนี ไม่ได้เอื อต่อความมั่นคง ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสังคมและทิศทางการพัฒนาของพื นที่แต่กลับมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความเหลื่อมลา ความไม่เป็นธรรม และเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งขัดแย้งอย่างชัดแจ้งต่อวัตถุประสงค์ของการจัดให้มีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ดังนั น เพื่อให้การพัฒนาสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในด้านการกระจายรายได้ การลดความเหลื่อมลา การสร้างความเป็นธรรม การเคารพสิทธิมนุษยชน และสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในพื นที่ ตามวัตถุประสงค์ของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๒ และหลักเศรษฐกิจพอเพียง องค์กรประชาชนตามรายนามด้านล่าง จึงขอให้ท่านได้พิจารณาและสั่งการให้มีการดาเนินการเพื่อให้การพัฒนาก่อประโยชน์สุขแก่คนไทยทุกคน ๑.ทบทวนนโยบายหรือชะลอการดาเนินงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และจัดให้มีการทบทวนพื นที่ แผนงาน และกิจการที่จะส่งเสริมการลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนตามหลักประชารัฐหรือนโยบายพื นฐานแห่งรัฐที่ต้องทาหน้าที่อานวยการ สร้างการมีส่วนร่วมในนโยบายแห่งรัฐ ที่ประเทศไทยได้ปฏิบัติเป็นบรรทัดฐานมาโดยตลอด ๒.การปรับปรุงผังเมืองต้องดาเนินการอย่างรอบคอบ ประชาชนมีส่วนร่วม และคงหลักการไม่มีอุตสาหกรรมในพื นที่สีเขียว ซึ่งต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับสิทธิของประชาชนที่จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี และมีสุขภาพที่ดี รวมทั งบังคับใช้กฎหมาผังเมืองอย่างเคร่งครัด ๓.ทบทวนนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซุปเปอร์คลัสเตอร์ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกาหนดทิศทาง เป้าหมายหรือออกแบบการพัฒนาร่วมกัน และให้มีกลไกตัวแทนองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนมีส่วนร่วมในกลไกดาเนินงานในทุกระดับ ๔.ยุติและมีคาสั่งให้หน่วยปฏิบัติในพื นที่ยุติ การข่มขู่คุกคามประชาชน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการแย่งยึดที่ดิน ขับไล่ประชาชนออกจากหมู่บ้าน ๕.พิจารณาการใช้อานาจตามมาตรา ๔๔ อย่างรอบคอบ เฉพาะกิจการที่จาเป็นเพื่อความสามัคคี สมานฉันท์ ความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ตามวัตถุประสงค์ของบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ๖.ในระยะเฉพาะหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่กาลังเกิดขึ นในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ๖.๑ จัดตั งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและประชาชน เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งด้านการ จัดหาที่ดินกรณีบ้านวังตะเคียน ตาบลท่าสายลวด อาเภอแม่สอด จังหวัดตาก ๖.๒ ติดตามและตรวจสอบปัญหาความไม่โปร่งใสในการจัดหาที่ดินเพื่อจัดตั งเขตเศรษฐกิจ พิเศจังหวัดหนองคาย และจังหวัดตาก รวมทั งพื นที่อื่นหรือที่กาลังจะดาเนินการ เช่น ป่าชุ่มนาที่ตาบลบุญเรือง อาเภอเชียงของ ๖.๓ การยืนยันให้กิจการในพื นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องจัดให้มีการศึกษา ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕ และ พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ ขอแสดงความนับถือ กลุ่มแม่สอดรักษ์ถิ่น กลุ่มรักษ์เชียงของ กลุ่มจับตาปัญหาที่ดิน เครือข่ายวาระเปลี่ยนตะวันออก เครือข่ายสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว เครือข่ายประชาสังคมจังหวัดมุกดาหาร มูลนิธิเพื่อการพัฒนาภาคเหนือ สภาพลเมืองจังหวัดชลบุรี สหพันธ์ที่ดินจังหวัดสระแก้ว เครือข่ายผู้นาองค์กรประชาชน และคนทางานพิทักษ์แม่นาโขง ๗ จังหวัดภาคอิสาน สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

Recent posts