6 April 2016
1324
หวังกระตุ้นจิตสำนึกข้าราชการไทยให้รู้จักปัญหาโลกร้อน ภัยแล้ง อันมีสาเหตุสำคัญมาจากการตัดต้นไม้ของหน่วยงานรัฐเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งขัดกับคำแถลงของนายกฯที่เวทีโลกร้อน วันนี้ เวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและเครือข่ายภาคประชาชนได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อ “ขอซื้อคืนต้นไม้” ขนาด 2 - 3 คนโอบ ที่แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 สำนักทางหลวงที่ 6 (เพชรบูรณ์) กรมทางหลวง ได้ขายให้เอกชนโดยวิธีการประมูลไปแล้วเกือบ 500 ต้นในราคม 1.245 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เอกชนได้ทำการตัดโค่นไปแล้วกว่า 50 ต้น เป็นเหตุให้ภาคประชาชนต้องออกมาคัดค้านผ่านสื่อสาธารณะและโซเชียลมีเดียอย่างหนักในขณะนี้ การขยายถนนของกรมทางหลวงสามารถทำได้ แต่ทว่าไม่มีความจำเป็นเลยที่รัฐจะต้อง “ขายต้นไม้กิน” ในราคาที่ถูกแสนถูก เพราะตลอด 2 ฟากฝั่งของถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ยังมีพื้นที่ว่าตามแนวเขตทางอีกฟากละเกือบ 20 เมตรที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ สามารถปรับแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ การตัดต้นไม้เป็นต้นเหตุของการเพิ่มปัญหาโลกร้อน และภัยแล้ง ในขณะที่นโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ต้องการให้ช่วยกันรักษาป่า รักษาต้นไม้ แต่ทว่าหน่วยงานของรัฐกลับเป็น “อิเหนา” เสียเองเยี่ยงนี้แล้วจะไปรณรงค์บอกกล่าวให้ภาคประชาชนช่วยกันรักษาป่า รักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างไรซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อต้นปีท่านนายกรัฐมนตรียังได้ไปแถลงต่อเวทีสหประชาชาติที่ประเทศฝรั่งเศสเกี่ยวกับเวทีการ ประชุมว่าด้วยโลกร้อน (COP21) ว่าประเทศไทยมีโรดแม็ปว่าจะลดก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อนให้ได้ 20 – 25 % แต่การปล่อยให้กรมทางหลวงและหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ตัดต้นไม้กันเป็นว่าเล่นโดยไม่คำนึงถึง นโยบายและปัญหาที่ตามมาแบบนี้จะให้ชาวบ้านเขาเชื่อมั่นท่านนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและเครือข่ายภาคประชาชนจึงเดินทางมายื่นหนังสือต่อท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้อง ดังนี้ 1)สั่งการให้กระทรวงคมนาคม โดยแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 สำนักทางหลวงที่ 6 (เพชรบูรณ์) กรมทางหลวง ทบทวนแบบแปลนหรือแนวเส้นทางโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงหมายเลข 12 เพื่อรองรับเส้นทางยุทธศาสตร์สายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) เสียใหม่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออุโมงค์ต้นไม้หรือต้นไม้ขนาดใหญ่ในปัจจุบันที่เติบโตสวยงามให้ร่มเงาตลอดแนวถนนทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ช่วงแยกพ่อผาเมืองถึงศูนย์สร้างหล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ 2)สั่งการให้กระทรวงคมนาคม โดยแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 สำนักทางหลวงที่ 6 (เพชรบูรณ์) กรมทางหลวง กดดันและเจรจากับภาคเอกชนที่ประมูลซื้อขายต้นไม้ไปได้แล้วนั้น เพื่อที่จะอนุญาตให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ภาคเอกชนและประชาชน ได้ “ซื้อคืนต้นไม้” ที่ยังไม่ได้ทำการตัดโค่นเกือบ 450 ต้นตลอดสองข้างทางของถนนทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ช่วงแยกพ่อผาเมืองถึงศูนย์สร้างหล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ที่เอกชนที่ประมูลได้ยังไม่ทำการตัดโค่น เพื่อเก็บรักษาไว้ให้ประชาชนชาวเพชรบูรณ์และประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามของต้นไม้ทั้งสองฟากฝั่งของถนนได้ตลอดไป และช่วยลดปัญหาสภาวะโลกร้อนได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย...นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด