ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ศาลฎีกาสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย คดีภรรยาและลูกของผู้สาบสูญ ฟ้องสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยะลา

ศาลฎีกาสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย  คดีภรรยาและลูกของผู้สาบสูญ ฟ้องสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยะลา

25 May 2016

1600

  กรณีนักการภารโรงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไป แล้วหายสาบสูญเมื่อปี พ.ศ. 2550   วันนี้ (19 พฤษภาคม  2559) เวลา  09.00 น. ศาลจังหวัดยะลาได้อ่านคำสั่งศาลฎีกา โดยศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย ในคดีหมายเลขดำที่ ผบ.39/2554 คดีหมายเลขแดงที่ 865/2554  ซึ่งนางซูมาอีเด๊าะ มะรานอ กับลูก ๆ รวม 3 คน  เป็นโจทก์ ฟ้องสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยะลา จำกัด  เป็นจำเลย  เรียกค่าเสียหายทางละเมิด กรณีสหกรณ์ฯ ปฏิเสธการจ่ายสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อันเนื่องมาจากนายมะยาเต็ง มะรานอ สมาชิกของสหกรณ์ฯ ที่หายสาบสูญไปเมื่อปี พ.ศ.2550  ภรรยาและลูก ๆ ของนายมะยาเต็ง จึงฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคต่อศาลจังหวัดยะลา คดีนี้สืบเนื่องมาจากรณีนายมะยาเต็ง มะรานอ นักการภารโรงของโรงเรียนบ้านบางลาง ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หายสาบสูญไปในเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังปิดล้อมตรวจค้นและควบคุมตัวนายมะยาเต็งพร้อมทั้งรถยนต์ของนายมะยาเต็งไปจากบ้าน ต่อหน้าภรรยาและลูก ๆ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2550 ที่ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตจา จ.ยะลา   ต่อมาศาลจังหวัดยะลามีคำสั่งให้นายมะยาเต็งเป็นคนสาบสูญตามคำร้องของนางซูมาอีเด๊าะ ภรรยา    นายมะยาเต็งเป็นสมาชิกสหกรรณ์ออมทรัพย์ครูยะลา มีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในฐานะสมาชิกที่ครอบครัวของนายมะยาเต็งพึงได้รับ แต่เมื่อภรรยาของนายมะยาเต็งได้เรียกร้องสิทธิดังกล่าวต่อสหกรณ์ฯ กลับได้รับการปฏิเสธ จึงได้ยื่นฟ้องสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยะลา ต่อศาลจังหวัดยะลาเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554  ต่อมาศาลจังหวัดยะลา(ศาลชั้นต้น) และศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีผู้บริโภค มีคำพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี  ระหว่างที่จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาพร้อมฎีกา โจทก์ได้ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี และศาลมีคำสั่งบังคับคดี จำเลยจึงนำเงินมาวางต่อศาลจังหวัดยะลาเพื่อชำระให้แก่โจทก์  โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 โจทก์ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินทั้งสิ้น 972,250 (เก้าแสนเจ็ดหมื่นสองพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระทั่งวันนี้ศาลจังหวัดยะลาจึงได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาว่าไม่ร้บฎีกาของจำเลย ด้วยเหตุผลว่า ข้อที่จำเลยฎีกานั้น จำเลยเคยให้การต่อสู้โดยชัดแจ้งในศาลชั้นต้นแล้ว ทั้งไม่เป็นปัญหาซึ่งเกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะ และไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา ยกคำร้องและไม่รับฎีกาของจำเลย  จึงทำให้คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว (รายละเอียดคำสั่งศาลฎีกา ตามเอกสารแนบ) นางซูมาอีเด๊าะ ภรรยาของนายมะยาเต็ง รู้สึกยินดีที่ทุกชั้นศาลได้ให้ความยุติธรรมแก่ตนและลูก ๆ แม้ว่าความหวังสูงสุดคือการได้ตัวสามีกลับคืนมาเพื่อเป็นเสาหลักของครอบครัวดังเดิมจะไร้หนทางแล้วก็ตาม     ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ นายปรีดา นาคผิว  ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม 089-6222474 -- นางสาวมาซีเต๊าะ  หมันหล๊ะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม อีเมล์ : marzylaw52@gmail.com โทรศัพท์ 091-1690432

Recent posts