12 August 2016
1381
ในวันนี้ (๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙) เวลา ๑๓.๐๐ น. นางสาวนริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ ได้เดินทางไปยื่นจดหมายเรื่องขอให้มีการดำเนินการพักราชการ ร้อยโทภูริ เพิกโสภณ (ปัจจุบันยศพันตรี) เป็นการเร่งด่วน เพื่อยื่นต่อ นายกรัฐมนตรี ผู้บังคับบัญชากองทัพบก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในกรณีที่ ข้าราชการ ยศร้อยโทที่มีมติคณะกรรมการป.ป.ท ที่ ปท.๐๐๐๑.๗/๕๘๔ ลง ๕ ส.ค.๕๙ ได้วินิจฉัยชี้มูลความผิดแล้วนั้น ยังคงรับราชการ โดยร้อยโทภูริ เพิกโสภณ เป็นหนึ่งในข้าราชการที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนและต่อมาถูกชี้มูลความผิดพร้อมกับพวกรวม ๑๐ คน แต่ร้อยโทภูริฯ เป็นเพียงข้าราชการคนเดียวที่ไม่ได้ถูกพักราชการ โดยข้าราชการทั้ง ๑๐ คนตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๐ ประกอบมาตรา ๑๕๗ ประกอบมาตรา ๘๓ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๓๐ (๔) อันเป็นการเสื่อมเสียต่อหน้าที่ราชการอย่างร้ายแรง เกิดความเสียหายแก่ทางราชการเป็นอันมาก ทั้งนี้ได้ดำเนินการส่งสำนวนคดีไปยังศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๖ จังหวัดปัตตานีเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๙ แม้ว่านางสาวนริศราวัลถ์จะได้เคยยื่นหนังสือ เรื่อง ขอให้มีการดำเนินการพักราชการร้อยโทภูริ เพิกโสภณ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ โดยสำนักงานเลขานุการกองทัพบก กองบัญชาการกองทัพบก ได้ทำหนังสือเรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริง ที่ กห ๐๔๐๐/๑๐๖๓ ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ตอบกลับความว่า กรณี ร้อยโท ภูริฯ เมื่อข้อกำหนดกระทรวงกลาโหม กำหนดให้เป็นดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา เมื่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้วเห็นว่า หากให้ร้อยโท ภูริฯ อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่เป็นการกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการ จึงไม่สั่งพักราชการระหว่างที่มีการพิจารณาหรือสอบสวน ซึ่งในขณะนี้มีข้อเท็จจริงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้วินิจฉัยชี้มูลความผิด ร้อยโทภูริ เพิกโสภณ กับพวกรวม ๑๐ คน ผู้ถูกกล่าวหาแล้วจึงเดินทางมายืนหนังสืออีกครั้งเกี่ยวกับคำสั่งพักราชการเพราะเห็นว่า ข้าราชการคนนี้ไม่ได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นข้าราชการคนอื่นที่ถูกกล่าวหาในข้อหาเดียวกัน เหตุการณ์เดียวกัน และคณะกรรมการ ป.ป.ท.ก็ชี้มูลว่ามีความผิดร้ายแรงเหมือนกัน ซึ่งแตกต่างจากคำสั่งของกองทัพบก โดย พล ร.๑๕ ได้พิจารณาพักราชการเจ้าหน้าที่ทหาร ชั้นสัญญาบัตร และชั้นประทวนที่กระทำความผิดทั้งหมด ยกเว้นร้อยโทภูริฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับ กห. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการทหารพักราชการ พ.ศ.๒๕๒๘ โดยนางสาวนริศราวัลถ์ฯได้เขียนระบุในจดหมายตอนท้ายว่า “หากไม่สามารถดำเนินการพิจารณาพักราชการร้อยโทภูริ เพิกโสภณได้โปรดชี้แจงเหตุผลเพิ่มเติมให้กับครอบครัวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ทราบต่อไปด้วย โดยโปรดกรุณาแจ้งผลให้ทราบด้วย” ขณะนี้นางสาวนริศราวัลถ์ฯ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีที่ข้าราชการรายดังกล่าวแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทและกระทำความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ โดยถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 จากสถานที่ทำงานที่กรุงเทพ โดยปัจจุบันนางสาวนริศราวัลย์รับราชการในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการดำเนินการขอความเป็นธรรมให้แก่น้าชาย พลทหารวิเชียร เผือกสม นางสาวนริศราวัลถ์ ฯเป็นผู้รับมอบอำนาจจากนางประเทือง เผือกสม มารดาพลทหารวิเวียร ฯ และเป็นตัวแทนของญาติติดตามทวงถามความเป็นธรรมต่อหน่วยงานต่างๆ ต่อกรณีที่พลทหารวิเชียรอย่างต่อเนื่อง จนสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจกลายเป็นคดีโด่งดัง จนนางสาวนริศราวัลถ์เองก็ได้รับรางวัลนักปกป้องสิทธิมนุษยชนสาขาเยาวชนหญิงในปี 2554 และรางวัลชมเชยนักศึกษาดีเด่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปี 2555 