9 September 2016
1063
*************************************** เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559 เวลา 14.30 นาฬิกา ศาลปกครองสงขลา(ศาลปกครองชั้นต้น) ได้อ่านคำพิพากษา เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ในคดีหมายเลขดำที่ 54/2556 ระหว่าง นายมะวาเห็ง มามะ ที่ 1 นางรูฆาย๊ะ มามะ ที่ 2 ผู้ฟ้องคดี กองทัพบกที่ 1 สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 2 และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 3 ผู้ถูกฟ้องคดี ศาลปกครองสงขลา ได้พิพากษาให้ สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องที่ 2 ชดใช้เยียวยาค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองเป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายจำเป็นอย่างอื่นในการปลงศพเป็นเงิน 105,500 บาท และค่าขาดไร้อุปการะตามกฎหมายเป็นเงิน 720,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 825,500 บาท ( แปดแสนสองหมื่นห้าพันห้าร้อยบาท ) คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก กับให้ คืนค่าธรรมเนียมศาลแต่บางส่วนตามส่วนของการชนะคดีแก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง และให้ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ในระหว่างการอ่านคำพิพากษาของศาลปกครอง นางรูฆาย๊ะ มามะ มารดาของนายฟุรกอน มามะ ผู้ฟ้องคดีที่ 2 ร่ำไห้กลางห้องพิจารณาคดี ขณะที่ศาลได้อ่านในส่วนการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสภาพศพของผู้ตาย ว่าเมื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุได้พบศพผู้ตาย ทราบชื่อในภายหลังว่า นายฟรุกอน มามะ อายุ 18 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงวอร์มสีฟ้า ไม่สวมรองเท้า พบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้าที่บริเวณกลางหลังค่อนไปทางขวา มีเลือดออกหูซ้าย พบบาดแผลฉีกขาดที่เข่าขวา ใกล้ศพพบปืนเล็กกล AK 47 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนเสียบอยู่ มีกระสุนอยู่ในรังเพลิง 1 นัด ในซองกระสุน 20 นัด และลูกระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก อยู่ในกางเกงวอร์มข้างขวา ซึ่งสภาพศพตรงกันกับรายงานการชันสูตรพลิกศพของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเมื่อได้พิจารณาจากรายงานการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) ของกลุ่มงานตรวจชีววิทยาและดีเอ็นเอ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฏผลการตรวจสอบว่า ไม่พบสารพันธุกรรม (DNA) ของนายฟรุกอนที่ลูกกระสุนปืน ด้ามปืน และไกปืน ที่เก็บตัวอย่างจากอาวุธปืนและลูกกระสุนปืนของกลางที่อยู่ใกล้ศพนายฟรุกอน ประกอบกับชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รายงานการพิสูจน์ว่า ลูกระเบิดของกลางอยู่ในสภาพเสื่อมใช้การไม่ได้ ถึงแม้จะดึงสลักพร้อมห่วงนิรภัยออกจากตัวลูกระเบิดแล้วขว้างปาไปก็ไม่สามารถทำการระเบิดได้ เนื่องจากชนวนของลูกระเบิดเสื่อมสภาพ และรายงานผลการตรวจพิสูจน์สารประกอบวัตถุระเบิดและสารเสพติดเบื้องต้นด้วยเครื่องตรวจจับร่องรอยสสาร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจไม่พบสารประกอบวัตถุระเบิดและสารเสพติดจากเสื้อผ้าของนายฟรุกอน ประกอบกับคำให้การของพยานบุคคลซึ่งอยู่ในเหตุการณ์หลายปากทั้งเจ้าหน้าที่และเพื่อน ๆ ของนายฟุรกอน ที่ให้การกับพนักงานสอบสวน เมื่อได้ประมวลถ้อยคำพยานบุคคลประกอบกับพยานเอกสารหลักฐานทางราชการแล้ว จึงรับฟังได้ว่านายฟรุกอนผู้ตายมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย อีกทั้งในสำนวนคดีก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใด ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องระหว่างนายฟุรกอนกับนายอาบีดีนบุคคลตามหมายจับ ข้อมูลของทางราชการก็ไม่ปรากฏว่านายฟุรกอนมีมีประวัติอาชญากรใด ๆ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้แต่อย่างใด และแม้จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า พบอาวุธปืนเล็กกล AK 47 อยู่ใกล้ศพ และลูกระเบิด เอ็ม 26 อยู่ในกระเป๋ากางเกง ของนายฟุรกอนผู้ตาย แต่ก็ไม่อาจยืนยันหรือชี้ชัดได้ว่าอาวุธปืนและวัตถุระเบิดดังกล่าวเป็นของนายฟุรกอนผู้ตาย เนื่องจากการตรวจสอบด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ไม่พบสารพันธุกรรม (DNA) ของนายฟุรกอนที่ลูกกระสุนปืน ด้ามปืน และไกปืน ประกอบกับนายฟุรกอนผู้ตายเป็นเพียงเยาวชน ซึ่งในขณะเกิดเหตุถูกยิงเสียชีวิตมีอายุเพียง 18 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้าที่กลางหลังค่อนไปทางขวา มีเลือดออกหูซ้าย พบบาดแผลฉีกขาดที่เข่าขวา กระสุนปืนทำลายอวัยวะช่องอก คอ และศีรษะ จึงยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่านายฟุรกนอนยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าว นางรูฆาย๊ะ มามะ ได้กล่าวว่า ตนยังจำชุดที่ลูกชายสวมใส่ก่อนออกจากบ้านไป และสภาพศพของลูกชายที่ถูกยิงกลางหลังติดตาอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้จะเสียใจอย่างยิ่งที่เสียลูกชายไป แต่ก็พอทำให้เกิดความรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง เมื่อศาลมีคำพิพากษาว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ และ พ้นข้อกล่าวหาในเรื่องอาวุธปืนและระเบิด แม้ว่าเขาจะจากม๊ะไปนานแล้วก็ตาม ก่อนฟ้องคดีปกครอง ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้รับเงินเยียวยาแล้ว จำนวน 500,000 บาท จากศอ.บต +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายปรีดา นาคผิว มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร. 089-6222474 --