Back

กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแก่งกระจาน และมึนอ ภรรยาของบิลลี่ จะเข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ

26 August 2020

2038

กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแก่งกระจาน และมึนอ ภรรยาของบิลลี่ จะเข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ

วันที่ 27 สิงหาคม 2563 กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแก่งกระจาน และมึนอ ภรรยาของบิลลี่ จะเข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด

 

“กะเหรี่ยงแก่งกระจานเข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ หวังแก้ปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน”

กลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน มีวิถีชีวิตที่ผูกพันอยู่กับป่า และดำรงชีวิตด้วยวิถีการทำไร่หมุนเวียน มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ก่อนที่จะมีการประกาศพื้นที่ป่าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งภายหลังได้มีการบังคับให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ป่า มีการเผาไล่รื้อบ้านเรือน และยุ้งฉางของชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดิน อีกทั้งยังมีกรณีที่ชาวบ้านที่เป็นชุมชนดั้งเดิมถูกจับกุมดำเนินคดีในพื้นที่ไร่หมุนเวียน เกิดเป็นคดีความจนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิมจำนวนมากมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา 

 

ต่อมาชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในการจัดการพื้นที่ทำกินแบบแปลงรวมเพื่อทำไร่หมุนเวียนโดยการมีส่วนร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานกับชุมชนกะเหรี่ยง แต่การยื่นข้อเสนอดังกล่าวยังไม่เกิดผลที่จะนำไปสู่การจัดการที่ดินแบบแปลงรวมของชุมชน  เนื่องจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปฏิเสธข้อเสนอในการจัดการที่ดินเพื่อทำไร่หมุนเวียนแบบแปลงรวมของชุมชน  โดยอ้างว่ารให้สิทธิแก่ชุมชนกะเหรี่ยงจะต้องทำด้วยเงื่อนไขการให้เป็นรายแปลงรายบุคคล และจะต้องขอดำเนินการรังวัดให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน เท่านั้น มิฉะนั้นจะถือเป็นการสละสิทธิในที่ดิน 

 

แต่ชาวบ้านกลับเห็นว่า การจัดสรรที่ดินให้กับชุมชนในผืนป่าแก่งกระจานด้วยการให้สิทธิเป็นรายบุคคลในแต่ละแปลงแยกจากกัน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเสื่อมโทรมลงของทรัพยากรป่าไม้และไม่สามารถดำรงวิถีทางวัฒนธรรมไร่หมุนเวียนของชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงได้ และชาวบ้านเห็นความสำคัญของชุมชนกะเหรี่ยงดั้งเดิมในการประกาศเขตวัฒนธรรมพิเศษ  โดยยึดหลักตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 สิงหาคม 2553 เรื่องแนวทางการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง

 

ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้พิจารณาข้อเรียกร้องของพวกเราในการจัดการที่ดินแบบแปลงรวมเพื่อทำไร่หมุนเวียนของชุมชนกะเหรี่ยงดั้งเดิม ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00 น. ณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

“มึนอ ภรรยาบิลลี่ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด กรณีไม่ฟ้องคดีบิลลี่เสียชีวิต”

สืบเนื่องจากวันที่ 3 กันยายน 2562 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงข่าวว่าพบเบาะแสการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ โดยพบกระดูกคล้ายกระดูกมนุษย์ ซึ่งหลังจากการตรวจพบว่าเป็นกระดูกบริเวณศีรษะ หากไม่มีกระดูกในส่วนนี้ มนุษย์จะถึงแก่ความตาย รวมถึงพบว่าสารพันธุกรรมที่ตรวจจากกระดูกดังกล่าวสัมพันธ์กับสายโลหิตของมารดาบิลลี่ จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า บิลลี่เสียชีวิตแล้ว โดยหลังจากที่มีการสอบสวนเพิ่มเติม ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องต่อไป โดยตั้งข้อหา 6 ข้อหากับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ผู้ต้องหาในคดี

 

แต่ต่อมาพนักงานอัยการมีหนังสือถึงดีเอสไอ มีคำสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ กับพวกรวม 4 คน ซึ่งมีการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 กล่าวถึงเหตุผลที่ไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหา เนื่องจากเห็นว่าทางคดีไม่มีประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมใดๆ เพียงพอที่จะเชื่อมโยงว่า ผู้ต้องหาทั้งสี่ได้ร่วมกันกระทำผิด พยานหลักฐานไม่พอฟ้องจึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง อีกทั้งวิธีการตรวจสารพันธุกรรมนั้น ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าคือเป็นชิ้นส่วนของบิลลี่ และคำให้การของพยานนักศึกษา 2 คน เชื่อถือไม่ได้ เพราะมีการกลับคำให้การ รวมถึงการยกคำร้องของมึนอ ที่ขอให้ปล่อยตัวบิลลี่ออกจากการควบคุมตัวมิชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 แปลว่า ปล่อยตัวบิลลี่ออกจากการควบคุมของผู้ต้องหาแล้ว ซึ่งต่อมาทางดีเอสไอได้ทำความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ โดยยื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องอีกครั้งหนึ่ง

 

นางสาวพรรณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ พร้อมชาวบ้านจำนวน 40 คน จะเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในกรณีการสั่งไม่ฟ้องคดีฆาตกรรมบิลลี่ต่ออัยการสูงสุด ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการอาคาร A ถนนแจ้งวัฒนะ

 

สมาคมฯ จึงขอเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทำข่าวการยื่นหนังสือทั้งสองกรณีตามวันและเวลาที่ระบุไว้ข้างต้น และติดตามความคืบหน้าได้ที่ Facebook page: Human Right Lawyers Association หรือทาง Twitter : HRLAthai

 

" สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) "
109 ซอยสิทธิชน ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร./แฟ็กซ์ : 02-275-3954

About Us

เว็บไทยเอ็นจีโอ สนับสนุนการใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์และเผยแพร่แนวคิดวัฒนธรรมเสรี เนื้อหาในเว็บไซต์ไทยเอ็นจีโอดอทโออาจี ท่านสามารถเอาไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงท่านระบุที่มาและห้ามทำการค้า

ThaiNGO Team

ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797

ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016

อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849

Email : webmaster@thaingo.org

Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00

Contact Info

2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310

2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310

+662 314 4112