Back

อาจารย์รอฮีม  นิยมเดชา :ครูศาสนาในมหาวิทยาลัยที่เป็นแรงบันดาลใจผู้นำการศึกษาและชุมชนมุสลิมยุคใหม่

อาจารย์รอฮีม  นิยมเดชา :ครูศาสนาในมหาวิทยาลัยที่เป็นแรงบันดาลใจผู้นำการศึกษาและชุมชนมุสลิมยุคใหม่

30 September 2022

2307

 

ประวัติส่วนตัว​

อาจารย์รอฮีม นิยมเดชา หรือฮัจญีรอฮีม บินเจะละ เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2486 (10 รอมฎอน ฮ.ศ. 1362) ณ บ้านแพรกเมือง ตำบลหน้าสตน  อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายเจะละ นิยมเดชา และนางก้อทิยะ นิยมเดชา ครอบครัวของท่านประกอบอาชีพทำนาและประมง ท่านมีพี่น้อง 11 คน เป็นชาย 5 หญิง 6 คน ท่านเป็นลูกคนที่ 7 ท่านสมรสกับนางสะอาดะ หวันละเบ๊ะ (สะอาดะ บินตี อับดุลฮามีด) เป็นบุตรตรีของโต๊ะครูหมีดปอเนาะเกาะหมีนอก (โรงเรียนส่งเสริมศาสนาวิทยามูลนิธิ) และนางดัมเราะฮ์ ยายา ภรรยาคนที่สองของท่าน มีบุตร 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560 ที อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ในวัย 73 ปี

 

ประวัติการศึกษา

อาจารย์รอฮีม นิยมเดชาจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนใกล้บ้านท่านที่หัวไทร ที่โรงเรียนวัดฉิมหลา ตำบลเขาพังไกร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจบจากจบชั้นประถมท่านได้เดินทางไปเรียนต่อทางศาสนาที่ปอเนาะเกาะหมี ท่านใช้เวลาเรียนที่นี่ 4 ปี ต่อมาท่านได้เดินทางไปเรียนต่อที่จังหวัดปัตตานีตามพี่ชายของท่านที่ปอเนาะเมาะโง อำเภอมายอ ท่านใช้เวลาศึกษาที่นี่ประมาณ 3-4 ปีก่อนเข้าไปศึกษาที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ที่นี่ท่านจบการศึกษาปริญญาตรีสาขา Jurisprudence and Laws จาก Islamic Center for Higher Studies ประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2514 ต่อมาท่านได้เดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอียิปต์ ที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮาร์ ท่านสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีที่นี่อีกใบในสาขา Islamic Law and Jurisprudence ในปี 2517 และจบปริญญาโทสาขา Comparative Jurisprudence ในปี 2520 และทำการศึกษาในระดับปริญญาเอกในสาขาเดียวกันที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮาร์ ท่านใช้เวลาศึกษาอยู่จนใกล้สำเร็จการศึกษา แต่ด้วยประสงค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะอาลา อาจารย์ที่ดูแลวิทยานิพนธ์จของท่านเสียชีวิตก่อนที่ท่านจะจบ

 

 

 

ความเชี่ยวชาญ/ความสามารถที่โดดเด่น

ท่านเป็นผู้บุกเบิกการสอนกฎหมายอิสลาม กฎหมายเปรียบเทียบ และเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอิสลาม

 

ประวัติการทำงาน

เมื่อท่านกลับมาจากประเทศอียิปต์เพื่อนของท่านอาจารย์หะสัน หมัดหมาน จึงชวนท่านมาสอนที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมขับเคลื่อนการศึกษาในแนวทางอิสลามในระดับอุดมศึกษา ท่านบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรกโดยเป็นอาจารย์ในภาควิชาปรัชญาและศาสนา ในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานาครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2527 และเข้าร่วมพลักดันศูนย์อิสลามศึกษากับทางอาจารย์หะสัน หมัดหมาน และทีมงาน

ที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ นอกจากงานสอนแล้วท่านยังรับงานบริหารในฐานะหัวหน้าแผนกวิชาอิสลามศึกษา ภาควิชาปรัชญาศึกษา ท่านเป็นคนหัวหน้าแผนกคนสุดท้ายก่อนที่จะยุบสาขาและย้ายสังกัดไปยังวิทยาลัยอิสลามศึกษาในปี 2532 ท่านดำรงตำแหน่งนี้ 3 ปี ในระหว่างปี 2529 -2532

ในขณะเดียวกันนอกจากงานในคณะแล้วท่านยังรับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษาเมื่อช่วงปี 2530-2532 จนมหาวิทยาลัยอนุมัติเปิดวิทยาลัยอิสลามศึกษาขึ้นมาเมื่อปลาย ปี 2532 และเริ่มดำเนินการในปี 2533 ท่านทำหน้าหน้ารักษาการผู้อำนวยการของวิทยาลัยเป็นท่านแรกเป็นเวลา 3 เดือน คือระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2533- 31 มีนาคม 2533 ท่านจึงลงจากตำแหน่ง

ในช่วงปี 2537-2541 ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าภาควิชาอิสลามศึกษา ต่อมาเมื่ออาจารย์หะสัน หมัดหมาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยอิสลามศึกษา ท่านได้เชิญอาจารย์รอฮีมมาช่วยงานบริหารอีกครั้งหนึ่ง อาจารย์รอฮีมดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและวิจัยระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน 2541 ถึง 31 กรกฎาคม 2545 และท่านได้เกษียณอายุราชการไปในเดือนกันยายน 2546 แต่ก็ยังคงช่วยสอนที่วิทยาลัยไปอีกระยะหนึ่ง รวมระยะเวลาที่ท่านสอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วม ๆ 19 ปี

หลังจากเกษียณเพื่อนของท่าน อาจารย์หะสัน หมัดหมาน ที่กำลังขับเคลื่อนการเปิดสถาบันการศึกษาด้านอิสลามแห่งใหม่ที่จังหวัดนราธิวาสได้มาเชิญท่านมาช่วยเป็นกำลังสำคัญในการบุกเบิกสถาบันแห่งใหม่นี้อีกครั้ง ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อองค์กรใหม่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นอาจารย์รอฮีมรับหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการสถาบันอิสลามและภาษาอาหรับ ที่นี่ท่านและอาจารย์หะสันได้ร่วมงานกันอีกครั้งเพื่อกรุยทางและวางรากฐานการศึกษาแบบอิสลามในสถาบันอุดมศึกษาเหมือนสมัยพวกท่านเริ่มก่อร่างสร้างศูนย์อิสลามศึกษาที่ปัตตานีเมื่อสมัยพวกท่านยังหนุ่ม

แม้อาจารย์หะสันได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์หลังก่อตั้งสถาบันขึ้นได้ไม่นาน อาจารย์รอฮีมก็ยังคงสอนและเป็นอาจารย์อาวุโสที่คอยเป็นที่ปรึกษาของอาจารย์รุ่นใหม่และนักศึกษาต่อจนสถาบันเติบโตและครบรอบการก่อตั้งสิบปี ท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างเดินทางไปสอนที่นราธิวาสก่อนที่สถาบันจะจัดงานครบรอบสิบปีไม่กี่วัน ซึ่งในงานวันนั้น ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้มาเป็นประธานในงานของสถาบัน ท่านได้กล่าวถึงคุณงามความดีของอาจารย์รอฮีมและรู้สึกเสียใจที่ผู้เชิญท่านมาร่วมงานนี้ไม่ได้มาร่วมงานและร่วมปิติยินดีในความเติบโตและก้าวหน้าของสถาบันด้านอิสลามที่จะเป็นเสาหลักด้านวิชาการอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจารย์รอฮีม อาจารย์หะสัน และทีมงานได้ร่วมกันทุ่มเทกำลังความสามารถแม้พวกท่านจะอยู่ในวัยชราแล้วก็ตาม  ท่านได้อุทิศตนตามแนวทางแห่งอิสลามจนวาระสุดท้ายของท่าน

 

สิ่งที่ส่งต่อมายังชนรุ่นหลังโดยเฉพาะเป็นแรงบันดาลใจผู้นำการศึกษาและชุมชนมุสลิมยุคใหม่

 

​อาจารย์รอฮีมเป็นผู้บุกเบิกการเรียนการสอนด้านอิสลามศึกษา การสอนกฎหมายอิสลาม กฏหมายอิสลามเปรียบเทียบในสถาบันอุดมศึกษาเมืองไทย แม้ว่าท่านจะได้บรรจุอาจารย์ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีแล้ว แต่ช่วงที่ท่านกลับมาเยี่ยมบ้านภรรยาของท่านที่โรงเรียนส่งเสริมศาสนาวิทยามูลนิธิ (ปอเนาะเกาะหมีนอก) ท่านมักจะหาเวลาเข้าไปพูดคุยกับนักเรียนหรือให้คำแนะนำพวกเขาในด้านการศึกษาอยู่บ่อย ๆ

ตลอดเวลาร่วม ๆ 30 ปีในการสอนของท่าน ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายซึ่งได้รับความรู้จากท่านโดยเฉพาะในด้านกฎหมายอิสลาม ทั้งที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ลูกศิษย์เหล่านี้ชื่นชมในความเป็นกันเองและแบบอย่างของท่านในฐานะครูที่ดี ในด้านการสอนท่านจะสอนให้นักศึกษานำความรู้ไปใช้และปฏิบัติจริง ในวิชา ๆ หนึ่งของท่านท่านจะสอนให้นักเรียนชายทุกคนฝึกอ่านคุฏบะฮ์ให้เป็นจนบางคนสามารถอ่านคุฏบะฮ์ได้อย่างคล่องแคล่วในเวลาต่อมา ลูกศิษย์ลูกหาของท่านบางส่วนเป็นครูในโรงเรียนต่าง ๆ จนกระทั่งผู้บริหารโรงเรียน หน่วยงานการศึกษาของรัฐและผู้นำชุมชนโดยได้นำความรู้ที่ได้รับจากท่านไปเผยแพร่ให้กับนักเรียนของพวกเขา และชุมชน แม้อาจารย์รอฮีมจะกลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาแล้ว แต่ความรู้ที่ท่านถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์ของท่านจะยังคงอยู่ต่อไป (อินชาอัลลอฮ์)

หลายๆท่านก็เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยในสาขาต่างๆและมหาวิทยาลัยทั้งภาคใต้ กลาง เหนือและอีสานหรือแม้กระทั่งมาเลเซียและอินโดนีเซีย ยิ่งโลกออนไลน์ก็สามารถสอนและบรรยายได้ทุกทีของโลก

 

รวบรวมและเรียบเรียงโดย นัจมีย์ หมัดหมาน



 

Recent posts