สำหรับท่านที่โอนเงินตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไปทางทีมงานจะส่งใบเสร็จหลังจากปีใหม่

Please note that for transfers made on or after December 25, 2025, receipts will be issued after the New Year Festival.

Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

นักปกป้องสิทธิฯ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ตรวจการบ้านหน่วยงานรัฐ คืบไม่คืบแก้ปัญหาระเบิดเปิดอุโมงค์เหมืองโปแตช เตรียมตะลุยบล็อกก่อนบ้านบึ้มครั้งที่ 3 ยื่นหนังสือต่อนายอำเภอ-ร้องทุกข์ต่อ สภ.ด่านขุนทด เอาผิดบริษัทตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

นักปกป้องสิทธิฯ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ตรวจการบ้านหน่วยงานรัฐ คืบไม่คืบแก้ปัญหาระเบิดเปิดอุโมงค์เหมืองโปแตช เตรียมตะลุยบล็อกก่อนบ้านบึ้มครั้งที่ 3 ยื่นหนังสือต่อนายอำเภอ-ร้องทุกข์ต่อ สภ.ด่านขุนทด เอาผิดบริษัทตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

19 August 2025

844

เมื่อวานนี้ (18 สิงหาคม 2568) ที่วัดสระขี้ตุ่น อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด จัดกิจกรรม “ตรวจการบ้านหน่วยงานรัฐ คืบไม่คืบแก้ปัญหาระเบิดเปิดอุโมงค์เหมืองโปแตช” หลังจากก่อนหน้านี้ได้เคลื่อนไหวสัญจรบล็อกก่อนบ้านบึ้มมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้ยังได้แถลงการเตรียมสัญจรบล็อกก่อนบ้านบึ้มครั้งที่ 3 ตะลุย อำเภอด่านขุนทด และ สภ.ด่านขุนทด เพื่อยื่นหนังสือต่อนายอำเภอ และเดินทางไปกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับบริษัทเหมืองแร่โปแตชตามกฎหมายอาญาและพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ

 

สงสัยเสียงระเบิดรอบเหมือง ห่วงทุนจีนขุดอุโมงค์ใหม่

พิริยกร ดีขุนทด นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด เปิดเผยสถานการณ์ล่าสุดว่า แม้หน่วยงานรัฐชี้แจงว่าการอนุญาตใช้ระเบิดยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย แต่ในพื้นที่ยังคงมีเสียงดังคล้ายระเบิด สร้างความกังวลว่ามีการลักลอบใช้ระเบิดเปิดอุโมงค์โดยไม่ได้รับอนุญาต

ยิ่งไปกว่านั้น หลังบริษัทเหมืองฯ มีการร่วมทุนกับบริษัทจีนเพื่อขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ ทำให้มีแรงงานจีนเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก ชาวบ้านเกรงว่าจะมีการอนุมัติให้ใช้ระเบิดในโครงการนี้ หากเกิดความเสียหายก็อาจซ้ำรอยปัญหาที่ไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้เหมือนกรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่ถล่มเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบชัดเจนต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่ถูกกัดกร่อนจากความเค็ม แหล่งน้ำสาธารณะที่ใช้ไม่ได้ และที่ดินทำกินที่เสียหายจากความเค็ม ส่งผลให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปโดยยังไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

 

ยื่นหนังสือหลายหน่วยงานแต่ยังไร้ความคืบหน้า

เดือนรุ่ง มูลขุนทด นักปกป้องสิทธิฯ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดกิจกรรมบล็อกก่อนบ้านบึ้มที่สี่แยกดอกหนองโพใกล้พื้นที่เหมืองโปแตช ตามด้วยการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อสถานทูตจีนให้ตรวจสอบการถือหุ้นอำพรางของรัฐวิสาหกิจจีน และต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ ซึ่งได้สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครองชะลอการอนุญาต

กลุ่มยังได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการเมืองฯ วุฒิสภา และ กมธ.ที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงกระทรวงมหาดไทยโดยตรง ซึ่งนายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขต 13 จังหวัดนครราชสีมา ได้รับปากว่าจะชะลอการอนุญาตใช้วัตถุระเบิด พร้อมสั่งให้จังหวัดตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทำให้กลุ่มฯ ต้องลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อในครั้งนี้

 

เตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทเหมืองฯ

จงดี มินขุนทด นักปกป้องสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวย้ำว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่รอความช่วยเหลือจากรัฐอีกต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง และจะเดินทางไปกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด เพื่อดำเนินการเอาผิดกับบริษัท ไทยคาลิ จํากัด ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490

เธอกล่าวว่า แม้เอกสารการอนุญาตใช้ระเบิดเมื่อปี 2559 จะสิ้นสุดไปแล้ว แต่ไม่เคยมีหน่วยงานใดตรวจสอบ ทั้งที่หลักฐานชัดเจน อีกทั้งรัฐยังผลักภาระให้ชาวบ้านต้องพิสูจน์เอง แทนที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบและเยียวยาผลกระทบ

 

ทนายความเปิดปมครอบครองระเบิดเกินกำหนด

กริษณุภูมิ นิลนามะ ทนายความสิทธิมนุษยชน ระบุว่า บริษัทเหมืองแร่โปแตชได้รับอนุญาตให้มีและใช้วัตถุระเบิดตั้งแต่ปี 2559 แต่ใบอนุญาตหมดอายุเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 และไม่พบการต่ออายุ อีกทั้งเอกสารของบริษัทเองในปี 2562 ยังยอมรับว่ามีวัตถุระเบิดเสื่อมสภาพคงค้างอยู่ แสดงว่าบริษัทครอบครองระเบิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 37 และมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ

เขายืนยันว่า กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพ และสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยในวันที่ 19 สิงหาคม 2568 กลุ่มจะยื่นหนังสือต่อนายอำเภอด่านขุนทดให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับบริษัทเหมืองฯ ตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ด่านขุนทดเพื่อกล่าวโทษบริษัทในข้อหาครอบครองวัตถุระเบิดเกินกำหนด

“ต่อไปนี้หากมีช่องทางในการดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง พี่น้องเราก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อทวงคืนความเป็นธรรมและความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่” กริษณุภูมิ กล่าว

 

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เหมืองแร่โปแตชแอ่งโคราช

 

 

 

ที่เกี่ยวข้อง :

กสม. ลงพื้นที่โคราช รับฟังผลกระทบเหมืองโปแตช กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ร้องยับยั้งการใช้ระเบิด

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด เข้ายื่นหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ปมขอให้ชี้แจงประเด็นปัญหาและเร่งแก้ปัญหาความเค็มในพื้นที่โดยเร็ว