ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ศาลอุทธรณ์ยืนโทษ “ธนพร วิจันทร์” คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการทวงสิทธิแรงงานช่วงโควิด-19

ศาลอุทธรณ์ยืนโทษ “ธนพร วิจันทร์” คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการทวงสิทธิแรงงานช่วงโควิด-19

4 September 2025

160

คำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการพาแรงงานข้ามชาติยื่นหนังสือเรียกร้องมาตรการเยียวยา ขณะที่ฝ่ายธนพรเตรียมฎีกาต่อ

วันที่ 3 กันยายน 2568 ศาลแขวงพระนครเหนืออ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีของ ธนพร วิจันทร์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานและผู้นำสหภาพแรงงาน ซึ่งถูกฟ้องในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ที่ธนพรพาแรงงานข้ามชาติไปยื่นหนังสือทวงถามมาตรการเยียวยาและสิทธิในการเข้าถึงวัคซีนในช่วงโควิด-19 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 20,000 บาท โดยรอลงอาญา 1 ปี เหตุผลคือการกระทำฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่ฝ่ายธนพรยืนยันว่าจะฎีกาต่อ

29 ตุลาคม 2564 ธนพรในฐานะตัวแทนแรงงาน พร้อมเครือข่ายช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานจากสหภาพคนทำงาน (Workers’Union) เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (Migrant Working Group) และเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน (Labour Network for Peoples Rights) เดินทางไปกระทรวงแรงงานเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องมาตรการช่วยเหลือแรงงานก่อสร้างและแรงงานข้ามชาติ ทั้งการเยียวยาจากโควิด-19 และการขึ้นทะเบียนแรงงาน แม้การยื่นหนังสือจะเป็นไปอย่างสงบ แต่แรงงานข้ามชาติ 7 คนถูกควบคุมตัวในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาธนพรในตอนแรกว่า ช่วยเหลือซ่อนเร้นแรงงานต่างด้าวก่อนเปลี่ยนเป็นข้อหา จัดการชุมนุมหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

7 พฤศจิกายน 2565 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ธนพรมีความผิด ลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 20,000 บาท แต่รอลงอาญา เนื่องจากไม่เคยต้องโทษมาก่อน ต่อมาธนพรพร้อมทนายได้ยื่นอุทธรณ์ โดยให้เหตุผลว่าการชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในกรณีนี้ไม่สมเหตุสมผล

 

การทวงสิทธิไม่ควรถูกทำให้เป็นอาชญากรรม

ธนพรอธิบายว่า เราเพียงแค่ไปยื่นหนังสือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อเรียกร้องให้แรงงานข้ามชาติได้เข้าถึงวัคซีน แต่กลับถูกตีความว่าเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

เธอมองว่าคดีนี้สะท้อนความท้าทายของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยย้ำว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเองเพียงคนเดียว แต่เพื่อยืนยันว่าการปกป้องสิทธิแรงงานคือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ

 

คำถามต่อการใช้กฎหมายฉุกเฉิน

กรณีของธนพรทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงการตีความและบังคับใช้กฎหมายในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะใน 3 ประเด็นสำคัญ

  1. การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควรระมัดระวัง เดิมกฎหมายออกมาเพื่อควบคุมโรค แต่ถูกใช้กับการรวมตัวเรียกร้องสิทธิ จึงเกิดคำถามว่าเป็นการตีความที่เกินขอบเขตหรือไม่
  2. สิทธิการชุมนุมโดยสงบ รัฐธรรมนูญและกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการรวมตัวและยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐ การกระทำเช่นนี้ควรถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่อาชญากรรม
  3. ผลกระทบต่อผู้ปกป้องสิทธิแรงงาน การดำเนินคดีอาจสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว ทำให้แรงงานและภาคประชาสังคมไม่กล้าออกมาใช้สิทธิของตนเอง อาจเข้าข่ายการใช้กฎหมายเพื่อปิดปาก (SLAPP)

 

ปัจจุบัน ธนพรและทีมทนายความเตรียมฎีกาต่อ โดยยืนยันว่ามีหลายประเด็นที่ยังต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบด้าน

คดีนี้จึงไม่ใช่เพียงการพิพากษาบุคคลหนึ่ง แต่สะท้อนถึงเส้นบาง ๆ ระหว่างการใช้กฎหมายพิเศษเพื่อรักษาความสงบ กับการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน คำถามสำคัญคือ เราจะสร้างระบบยุติธรรมที่เคารพสิทธิในการชุมนุมและการปกป้องสิทธิของประชาชนได้อย่างไร โดยไม่ต้องแลกมากับการถูกทำให้เป็นผู้กระทำผิด

 

 

 

ที่มา  Migrant Working Group (MWG)

ภาพจาก ประชาไท

Recent posts