ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

นักปกป้องสิทธิฯ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เรียกร้องยุติการใช้วัตถุระเบิดในเหมืองโปแตช

นักปกป้องสิทธิฯ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เรียกร้องยุติการใช้วัตถุระเบิดในเหมืองโปแตช

10 October 2025

135

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา กลุ่มนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้กระทรวงมหาดไทย ทบทวนกระบวนการอนุญาตใช้วัตถุระเบิดประจำปี 2568 ของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการเหมืองโปแตชใน ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และเรียกร้องให้ตรวจสอบการอนุญาตใช้วัตถุระเบิดในปี 2559 ว่าเป็นไปตามกฎหมายและรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือไม่ โดยมี นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือแทน

 

พนมวรรณ นามตาแสง ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและที่ปรึกษากลุ่มฯ ระบุว่า บริษัทไทยคาลิ จำกัด ได้ยื่นขออนุญาต ซื้อ มี ใช้ และเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดตั้งแต่ปี 2558 และได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยในปี 2559 ขณะที่รายงาน EIA จัดทำโดยสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าจะไม่มีการใช้วัตถุระเบิดในกระบวนการทำเหมือง

ที่ปรึกษากลุ่มฯ ตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการของบริษัทอาจมีความไม่สอดคล้องกับข้อมูล EIA และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการถือครองวัตถุระเบิดตามกฎหมาย รวมถึงการต่ออายุใบอนุญาตและการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 และพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530

กลุ่มฯ ยังเรียกร้องให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่นและจังหวัด ในการออกใบอนุญาต ว่ามีการปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทยอย่างถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้การอนุญาตเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีมาตรการควบคุมความปลอดภัยที่เหมาะสม

 

จงดี มินขุนทด ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด กล่าวว่า ในขณะที่เรากำลังตั้งคณะทำงานตรวจสอบ เขากลับยังดำเนินการระเบิดอยู่ทุกวัน ทั้งที่เป็นการกระทำที่เข้าข่ายอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม เราเคยทำหนังสือถึงนายอำเภอไปแล้ว แต่สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง

เธอยังระบุว่า ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เหมืองได้ ทั้งที่คณะทำงานซึ่งมีนักวิชาการร่วมอยู่ด้วยควรได้รับอนุญาต เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและยับยั้งกระบวนการขออนุญาตใช้วัตถุระเบิดจนกว่าจะมีผลการตรวจสอบที่ชัดเจน ต่อสิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่ได้เห็น เหมืองยังคงทำงานทุกวัน จึงเรียกร้องให้มีคำสั่งยุติการระเบิดและให้หน่วยงานรัฐลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเร่งด่วน

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการของวุฒิสภากำลังจัดทำรายงานเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าสำคัญ เพราะการใช้วัตถุระเบิดไม่เคยปรากฏอยู่ในรายงาน EIA เดิม หากจะมีการใช้วัตถุระเบิดจริง ก็ควรต้องมีการจัดทำรายงาน EIA ใหม่ เพื่อประเมินผลกระทบ และวางแนวทางการชดเชยความเสียหายให้ประชาชน

ที่ผ่านมา ชาวบ้านบางส่วนเคยถูกฟ้องร้อง แต่ภายหลังก็มีการถอนฟ้องไป อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัย และหวังว่ารัฐบาลชุดนี้ แม้จะเหลือเวลาทำงานเพียงไม่กี่เดือน จะเห็นความเดือดร้อนของประชาชน และเร่งแก้ปัญหาให้ยุติโดยเร็ว

 

ในวันเดียวกัน กลุ่มฯ ยังได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในข้อเรียกร้องเดียวกันนี้ พร้อมทั้งระบุในหนังสือด้วยว่า ขอให้กระทรวงมหาดไทยเร่งตรวจสอบและตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อประชาชนในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยมารับหนังสือแทนปลัดกระทรวง

ศุภวรรณ บูชาดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบตรวจราชการและการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังรับหนังสือจากกลุ่มฯ ว่า “หลังจากรับหนังสือแล้วเราจะมีกรอบระยะเวลาในการติดตามเรื่อง ซึ่งตรงนี้เป็นข้อมูลที่จะไปกระตุ้นทางจังหวัด แล้วเราจะกระตุ้นให้จังหวัดจัดทำรายงานความคืบหน้าคู่ขนานกันให้ทั้งกระทรวงและกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ รวมถึงจะนำเรื่องร้องเรียนในวันนี้เสนอปลัดกระทรวงด้วย ซึ่งเราจะทวงถามความคืบหน้ากับทางจังหวัดทุก ๆ  30 วันด้วย”

 

ด้าน ปรานม สมวงศ์ จาก Protection International (PI) กล่าวว่า รู้สึกกังวลต่อความล่าช้าในการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่ปัญหาส่งผลกระทบต่อชีวิต สุขภาพ และความเป็นอยู่ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การละเลยหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อาจยิ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ซึ่งไม่สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของข้าราชการ

ข้อเรียกร้องครั้งนี้ชัดเจน คือขอให้มีการทบทวนและพิจารณาการอนุญาตใช้วัตถุระเบิดอย่างรอบคอบ การดำเนินการอย่างล่าช้าอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อกระบวนการ และไม่สอดคล้องกับพันธกรณีตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ในการคุ้มครองสิทธิและดำเนินการอย่างเหมาะสม

 

 

 

 

ที่เกี่ยวข้อง : 

ชาวบ้านด่านขุนทดยื่นหนังสือคัดค้านคณะทำงานตรวจสอบเหมืองโปแตช

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ติดตามคดี “ไทยคาลิ” ไม่ปูผ้ายางก้นบ่อเหมืองแร่ ชี้การดำเนินงานล่าช้า ข้อมูลไม่ตรงกัน

Recent posts