Back

รู้จัก นักสิทธิมนุษยชน ประชาชนคนธรรมดาผู้ไม่ยอมจำนน

11 July 2012

1430

รู้จัก นักสิทธิมนุษยชน ประชาชนคนธรรมดาผู้ไม่ยอมจำนน
ก่อนที่จะเขียนบทความนี้ในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔       เมื่อ ๓ วันก่อน(๒๘ ก.ค.) เมื่อผมหยิบ BB ขึ้นมาดูความเป็นไปบนโลก Face book   ผมเห็นอัพเดทล่าสุดบนเฟซบุ๊คของ “กิตตินันท์ นาคทอง”เพื่อนผมซึ่งร่วมงานภาคสังคมด้วยกันในการทำนิตยสาร Democrazy และในคณะทำงานของวุฒิสภา(เมื่อครั้งที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็น ส.ว.สรรหา)  ปัจจุบันพี่อ๊อฟเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ASTV-ผู้จัดการ พี่ อ๊อฟอัพเดทข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกอดใจหายไม่ได้ นั่นคือ ข่าวการถูกลอบสังหารด้วยอาวุธปืนในเวลากลางวันแสกๆ ของ “นายทองนาค เสวกจินดา” ชีวิตจริงๆของคุณทองนาค เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง มีอาชีพเปิดร้านขายของและขายก๋วยเตี๋ยวหน้าบ้านตัวเอง แต่ต้องมาผกผันตัวเองมาเป็นแกนนำคนสำคัญของชาวบ้านหมู่ ๔ ต.ท่าทราย    อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการโรงถ่านหินของบริษัทเทคนิ ทีม(ไทยแลนด์)จำกัด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่อันเนื่องมาจากการใช้โกดังพัก สินค้าการเกษตรเป็นที่เก็บและขนถ่ายถ่านหิน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง ถ่านหิน(คนที่เป็นโรคหอบหืดอย่างผมเข้าใจว่าฝุ่นละอองทุกชนิดมันเลวร้ายขนาด ไหน)และรวมถึงปัญหามลภาวะทางเสียงของรถบรรทุกที่ลักลอบขนถ่านหินในยามวิกาล ซึ่งปัญหาเหล่านี้ คุณทองนาคเป็นแกนนำในการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวบ้านในพื้นที่มากว่า ๒ ปีแล้ว  เพราะแม้ทั้งศาลและทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีคำสั่งให้บริษัทดัง กล่าวหยุดการประกอบกิจการที่ก่อมลภาวะส่งผลกระทบต่อประชาชนแล้ว   แต่การ ลักลอบผลิตและขนถ่ายถ่านหินยังคงเกิดขึ้นโดยขาดมาตรการความรับผิดชอบต่อสุข ภาวะชุมชนมาตลอด ที่ผมสะเทือนใจเพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนผมเพิ่งอ่านข่าวการชุมนุม ปิดถนนพระราม ๒ ของกลุ่มต่อต้านโรงถ่านหินในพื้นที่นี้ที่ประสบความสำเร็จจนทำให้ผู้ว่า ราชการจังหวัดฯต้องสั่งหยุดการขนถ่ายถ่านหิน ( แม้สั่งแล้วก็ยังมีการลักลอบฝืนคำสั่งก็ตาม ) และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนผมจะเกิดนอนไม่หลับแล้วลุกขึ้นมาเขียน บทความนี้ ผมทราบรายงานข่าวล่าสุดว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ “พลตำรวจเอกภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา”  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ ผมจึงโพสลิ้งค์ข่าวในเว็บ NationChannelลงในเฟซบุ๊คของลูกสาวท่านภาณุพงศ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนจบคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ มาด้วยกัน เพื่อฝากขอร้องไปยังคุณพ่อให้ช่วยทำคดีนี้ให้ถึงที่สุด คืนความเป็นธรรมให้คุณทองนาค เรื่องราวของพี่ทองนาค พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวคนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวสมุทรสาคร จนทำให้ตัวเองต้องพบจุดจบของชีวิตอย่างน่าเศร้าขณะที่แกกำลังใช้ชีวิตปกติ ประจำวันอย่างพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวคนหนึ่ง ทำให้ผมเกิดฉุกคิดขึ้นมาว่า แท้จริงแล้ว  ความเป็น “นักสิทธิมนุษยชน”มันเป็นจิตวิญญาณที่สามารถเกิดขึ้นมาได้ในจิตใจของประชาชน คนธรรมดาทั่วๆไป ที่เราอาจเจอได้บนท้องถนน  ร้านขายของ  โรงงานห้างร้าน  หรือตามเทือกสวนไร่นา ผมนึกถึงตัวผมเองสมัยก่อนที่จะเข้ามาสู่แวดวงขบวนการภาคประชาสังคม ตอนนั้น ผมไม่รู้ว่า “NGO”คืออะไร ? “นักสิทธิมนุษยชน”คืออะไร ? ยิ่งเวลามีการประท้วงคัดค้านนโยบาย โครงการต่างๆของภาครัฐ ความเข้าใจในสมองของผมจะเข้าใจว่าคนเหล่านี้คือ “ผู้ที่มีอาชีพรับเงินจากองค์กรเถื่อนของต่างชาติเพื่อขัดขวางความเจริญใน ประเทศ”ตามด้วยคำด่าทอ “ไอ้ห่าพวกนี้มันทำประโยชน์อะไรให้ประเทศบ้าง” กระทั่งต่อมาช่วงชีวิตที่ผมสนุกสนานกับการทำกิจกรรมภาคสังคมในแบบเยาวชน นักศึกษา จนชีวิตผมหลุดเข้ามาสู่สิ่งที่ผมเคยรู้สึกรังเกียจในที่สุด ผมกลายเป็นนัก กิจกรรมที่มาเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในบท “เลขาธิการศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย(YPD)” รวมทั้งเป็นเยาวชนคน เดียวที่เป็นกรรมการ “องค์การนิรโทษกรรมสากล(ประเทศไทย)”ยุคที่มี “ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์”เป็นประธาน ผมจึงได้สัมผัสผู้คนมากหน้าหลายตาที่อยู่ใน แวดวงนี้  ส่วนหนึ่งก็พบว่า “เอ็นจีโอ”แท้จริงก็คืออาชีพนักพัฒนาในองค์กรที่อยู่นอกภาครัฐและไม่แสวงหา กำไร แหล่งเงินทุนสนับสนุนที่ผมเคยเข้าใจว่าเป็นองค์กรเถื่อนของต่างชาติ จริงๆคือองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านสิทธิเสรีภาพของ ประชาชน และประชาชนในประเทศเหล่านั้นเห็นความสำคัญพร้อมใจร่วมลงขันบริจาคสนับสนุน การเสริมสร้างสิทธิเสรีภาพ ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นธรรมให้เกิดในประเทศอื่นๆด้วย แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้ผมอยากเขียนบทความนี้ อยู่ตรงที่เรื่องของคนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งหาใช่คนที่มีอาชีพในด้านนี้ที่ทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชน(NGO)แต่อย่าง ใด ผมอยากกล่าวถึงคนธรรมดาที่มีชีวิตทำมาหาเลี้ยงชีพปกติทั่วไป ที่ต้องมามี ชีวิตต่อสู้เพื่อสิทธิ ความเป็นธรรมของสังคม อันเนื่องมาจากการที่พวกเขาต้องตกเป็น “ผู้ถูกกระทำจากความเป็นไม่เป็นธรรมในสังคม”เหมือนอย่างพี่ทองนาค ซึ่งที่ผ่านมาจะว่าไปแล้วเรามีคนแบบเดียวกับพี่ทองนาคไม่น้อยเหมือนกัน เราอาจเคยรู้จัก “สมชาย นีละไพจิตร”ในฐานะทนายความผู้สู้คดีให้คนยากไร้ คนถูกรังแกในกระบวนการยุติธรรม จนวันหนึ่งเมื่อทนายสมชายต้องกลายเป็น“ผู้ ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน”เสียเองด้วยการถูกอุ้มหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย เราจึงได้รู้จักชื่อ “อังคณา นีละไพจิตร”หญิงแม่บ้านชาวมุสลิมธรรมดาคนหนึ่งที่กลายมาเป็นนักสู้เพื่อ สิทธิมนุษยชนของประชาชน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้และเป็นผู้ทำงานต่อต้าน “การทำให้บุคคลหายสาบสูญอย่างไม่เป็นธรรม”ซึ่งเกิดขึ้นหลายกรณีมีผู้ ถูกกระทำหลายราย รวมทั้งสามีของพี่อังคณาที่ชื่อ“สมชาย นีละไพจิตร”ด้วย เรารู้จัก “เจริญ วัดอักษร” ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งในพื้นที่ตำบลบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์  ที่มีอาชีพเปิดร้านอาหาร “ครัวชมวาฬ”ที่ภูมิลำเนาของตนเอง  จนเมื่อวันหนึ่งที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินได้รุกเข้ามาในชุมชนโดยไม่มีการ รับฟังความเห็นความต้องการของคนพื้นที่ น้าเจริญจึงต้องกลายเป็นแกนนำของคน ในพื้นที่ ต่อสู้คัดค้านโครงการนี้เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและลมหายใจบริสุทธิ์ของ ชุมชนจนรัฐบาลสั่งย้ายโครงการนี้ออกจากพื้นที่ นับแต่นั้นน้าเจริญจึงกลาย เป็นผู้ที่มีบทบาทในการให้ความรู้เพื่อยกระดับขบวนการสิทธิชุมชนของชาวบ้าน หลายพื้นที่ทั่วประเทศ จนในที่สุดน้าเจริญก็ถูกกระสุนมรณะของ“สุนัขลอบกัด” คร่าชีวิต ในระหว่างการต่อสู้เรื่องการออกเอกสารสิทธิที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม ช่วงปีสองปีมานี้ เรารู้จัก “สุทธิ อัชฌาศัย”ในฐานะของผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก  ที่ต่อสู้คัดค้าน ๗๖ โครงการอันตรายที่จะดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จนนำไปสู่การเร่งจัด ตั้งองค์กรอิสระเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะชุมชน ตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐ ระบุไว้ รวมถึงการแก้ไขข้อกำหนดประเภทกิจการอุตสาหกรรมอันตราย แต่ผมเองก็เพิ่งรู้ ตอนหลังว่า  ชีวิตที่แท้จริงของพี่สุทธิ  แกเป็นชาวสวนผลไม้ ที่ได้รับจิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อมวลชนจาก “สุวิทย์ วัดหนู”(พี่สุวิทย์ของน้องๆหลายคนในขบวนการประชาสังคม)มาตั้งแต่สมัยยัง เรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย ในยุคหนึ่งช่วง ปี๒๕๓๗ คนไทยจำนวนไม่น้อยรู้จัก “อารีวรรณ จตุทอง” หรือ “เจ๊อ้วน” ที่น่ารักของผม (ผมชอบเรียกแกว่าเจ๊)  ในฐานะที่แกเป็น “รองนางสาวไทย” แต่ต่อมาในช่วงชีวิตหนึ่งของแกผกผันอันเนื่องจากการถูกกระทำ ความรุนแรงโดยสามี(ในอดีต)ที่เป็นอันธพาลและนิยมความรุนแรง จนเป็นคดีครึก โครมบนหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ วันนี้เจ๊อ้วนกลายมาเป็นนักกฎหมาย  นักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ นักวิชาการ ที่ไม่เพียงแต่ทำงานเพื่อสิทธิของสตรีแล้ว ยังทำงานในการยกระดับอีกหลาย ประเด็นความเป็นธรรม (ผมสารภาพอย่างหนึ่งว่า ผมเคยได้ยินเรื่องคดีของเจ๊อ้วนมาแต่ยังเด็กแล้ว แต่ตอนที่ผมรู้จักกับเจ๊ครั้งแรกเมื่อคราวที่ได้มาร่วมทีมรับฟังความเห็น ประชาชนเพื่อจัดทำธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติด้วยกัน ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเจ๊อ้วนเป็นใคร) ผมขอเล่ายกตัวอย่างเรื่องราวของ “คนธรรมดาที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน”ไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะมากกว่านี้คง เกินความสามารถผมที่จะเล่าแล้ว  เรื่องราวมันมีอีกเยอะมาก  แต่ทั้งหมดนี้ที่เล่ามา นอกจากผมจะหวังอยากให้สังคมไทยรู้จักคนเหล่านี้มาก ขึ้นแล้วนั้น สิ่งที่ผมคาดหวังมากกว่าคือ ผมอยากชวนทุกคนที่ได้อ่าน(ซึ่งไม่น่าจะเยอะ) ได้ตระหนักร่วมกันว่า คนเหล่านี้กลายมาเป็นอย่างในวันนี้ได้  นั่นเป็นเพราะว่าปัญหาสิทธิมนุษยชน ปัญหาความไม่เป็นธรรม เป็นปัญหาของทุกคนในสังคมร่วมกัน การต่อสู้หลายกรณีที่เราเห็นคนต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเอง แท้จริงเขาสู้เพื่อ สิทธิของส่วนรวม ที่เราเป็นผู้ถูกกระทำย่ำยีจากความอยุติธรรมร่วมกัน แค่ว่าเราอาจได้รับผล ของการถูกกระทำทางตรง ทางอ้อม มากน้อยต่างกันไป แต่วันนึงทุกคนอาจกลายเป็นผู้ถูกกระทำทางตรงและอย่างหนัก ได้ทั้งสิ้น จงระลึกเสมอว่า ปัญหาสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยและสังคมโลก แม้มันอาจไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าคุณ….แต่มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในทุกวินาทีที่ คุณหายใจ ขออุทิศคาราวาลัยแด่นักสู้ผู้วายชนม์  และคาราวะสดุดีนักสู้ผู้ยังมีลมหายใจเพื่อมวลชนในปัจจุบันทุกท่าน

About Us

เว็บไทยเอ็นจีโอ สนับสนุนการใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์และเผยแพร่แนวคิดวัฒนธรรมเสรี เนื้อหาในเว็บไซต์ไทยเอ็นจีโอดอทโออาจี ท่านสามารถเอาไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงท่านระบุที่มาและห้ามทำการค้า

ThaiNGO Team

ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797

ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016

อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849

Email : webmaster@thaingo.org

Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00

Contact Info

2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310

2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310

+662 314 4112